จังหวัดเชียงใหม่
Chiang Mai
ภาคเหนือ ประเทศไทยจังหวัดในภาคเหนือถ้าจะแบ่งตามความคุ้นเคยของชาวไทยจะมีด้วยกัน 9 จังหวัด ดังนี้เชียงราย เชียงใหม่ (นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่) น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง (เขลางค์นคร) ลำพูน (หริภุญชัย) อุตรดิตถ์ดอยทางภาคเหนือแต่ในการแบ่งเขตตามราชบัณฑิตยสถาน จะประกอบไปด้วย 9 จังหวัด ได้แก่เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ นอกจากการแบ่งตามราชบัณฑิตยสถานแล้ว ยังมีหน่วยงานที่จัดแบ่งภูมิภาคของประเทศไทยที่สำคัญอีกหน่วยงานหนึ่งคือ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดให้ภาคเหนือประกอบด้วย 17 จังหวัดได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานีจากหลักฐานทางโบราณคดีภาคเหนือตอนบนในอดีต ได้มีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น สาม อาณาจักร ดังนี้คืออาณาจักรโยนก อาณาจักรหริภุญไชย อาณาจักรล้านนาภาคเหนือตอนบนได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูนเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนามาก่อน เป็นถิ่นพูดคำเมือง(เติ้งอู้กำเมือง)ภาคเหนือตอนล่างได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร เพชรบูรณ์ ตาก และ กำแพงเพชรภาคเหนือตอนล่างมีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง แต่ก็ยังมีอีกจังหวัดหนึ่งที่เป็นอดีตศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่างนั่นคือจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะมีหลายเชื้อชาติประกอบกันเป็นจังหวัดที่แปลกประหลาดมากที่สุดในสยามประเทศเพราะ จังหวัดนี้มีชนชาติที่ต่างกันถึง 3 ชนชาติ คือชนชาติไทยภาคเหนือ (ล้านนา) ชนชาติไทยภาคกลาง และ ชนชาติลาว ดังนั้นจังหวัดนี้จึงอธิบายแน่นอนไม่ได้ว่าภาษาที่พูดตกลงเป็นภาษาอะไร เพราะมีหลายภาษาในจังหวัดนี้ แต่ภาษาราชการของจังหวัดอุตรดิตถ์ก็ยังคงเป็น ภาษาภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่างมีภาษาพูดที่เป็นภาษาของคนภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นแต่ส่วนของคนในท้องถิ่นที่ไม่ใช่อำเภอเมือง หรือในอำเภอเมือง จะมีภาษาพูดเป็นของท้องถิ่น เช่น จังหวัดอุตรดิตถ์ ในอำเภอเมืองพูดภาษาภาคกลาง แต่พอขึ้นไปทางเหนือบริเวณตั้งแต่อำเภอลับแลเหนือขึ้นไป จะพูดภาษาทางถิ่นเหนือที่เรียกว่า คำเมือง แต่ภาษาของจัวหัดอุตรดิตถ์ทางตอนเหนือจะมีลักษณะไม่เหมือนภาษาคำเมืองทั่วไป เพราะสำเนียงจะออกไปทางประเทศลาวเสียส่วนใหญ่ เพราะคนแถวนี้ในสมัยก่อนอพยพมาจากเชียงตุง และเชียงแสนความเชื่อและพิธีกรรมความเชื่อ ความเชื่อในเรื่องพระพุทธศาสนา ความเชื่อเรื่องการเกิด ความเชื่อเรื่องการแก่ ความเชื่อเรื่องการตาย ความเชื่อเรื่องการขนทรายเข้าวัด ความเชื่อเรื่องการทานก๋วยสลากฯ ความเชื่อเรื่องตุง และการถวายโคมไฟ ความเชื่อเรื่องโชคลาภ ความเชื่อการให้ทาน ความเชื่อเรื่องการปล่อยโคมลอย พิธีกรรม พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา พิธีกรรมการสู่ขวัญ พิธีกรรมการขอฝน พิธีกรรมเมื่อมีการเกิด พิธีกรรมเมื่อถึงวัยชรา พิธีกรรมเกี่ยวกับการตาย เทือกเขาที่สำคัญของภาคเหนือเทือกเขาแดนลาว ทิวเขาถนนธงชัย เทือกเขาหลวงพระบาง เทือกเขาผีปันน้ำ ทิวเขาดอยมอนกุจู ทิวเขาดอยอินทนนท์ ทิวเขาขุนตาล เทือกเขาผีปันน้ำ ทิวเขาพลึง ทิวเขาดอยภูสอยดาว ทิวเขาดอยภูเมี่ยง-ภูทองอ้างอิงhttp://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1378ราชบัณฑิตยสถานจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดหนึ่งใน 76 จังหวัดของประเทศไทย และตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 20,107 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 1.67 ล้านคน มีอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ และปกครองจังหวัด การแบ่งการปกครองประกอบด้วย 24 อำเภอ ยังเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาในระดับสูง มีศักยภาพในการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมากมาย มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนาในสมัยโบราณ มีภาษาล้านนา (คำเมือง) เป็นภาษาท้องถิ่น จังหวัดเชียงใหม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกับจังหวัดอื่นๆ ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามเมืองเชียงใหม่สร้างขึ้นโดยพญามังราย ในปี พ.ศ. 1839 ในชื่อ "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่" และใช้เป็นราชธานีของอาณาจักรล้านนา ในอดีต เชียงใหม่มีฐานะเป็นราชอาณาจักรนครรัฐอิสระ ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มังรายตั้งแต่ พ.ศ. 1839-2101 แต่ต่อมาเชียงใหม่ได้เสียเมืองให้แก่พระเจ้าบุเรงนองในปี พ.ศ. 2101 และได้ถูกปกครองโดยพม่ามานานกว่าสองร้อยปี จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้มีการทำสงครามเพื่อขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงใหม่และเชียงแสนได้สำเร็จ โดยการนำของเจ้ากาวิละและพระยาจ่าบ้าน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้ากาวิละขึ้นเป็นพระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ โดยให้ปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือในฐานะประเทศราชของสยาม และราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์หรือราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน ซึ่งเป็นเชื้อสายของพระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ ก็ได้ปกครองเมืองเชียงใหม่และหัวเมืองต่าง ๆ สืบต่อมาและเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นรัตนติงสาอภินวบุรีเชียงใหม่และในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองประเทศราช และมีการจัดตั้งการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า มณฑลพายัพหรือมณฑลลาวเฉียง ต่อมาเชียงใหม่ได้มีการปรับปรุงการปกครองและมีฐานะเป็นจังหวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจนถึงปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เส้นรุ้งที่ 16 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 99 องศาตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,027 ฟุต (310 เมตร) ส่วนกว้างจากทิศตะวันตกจรดทิศตะวันออกประมาณ 138 กิโลเมตร ส่วนยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ประมาณ 320 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 750 กิโลเมตรโดยทางรถไฟ และรถยนต์ประมาณ 720 กิโลเมตรตามแนวทางหลวงแผ่นดินสายเหนืออาณาเขตติดต่อทิศเหนือ รัฐฉานของสหภาพพม่า โดยมีดอยผีปันน้ำของดอยคำ ดอยปกกลา ดอยหลักแต่ง ดอยถ้ำป่อง ดอยถ้วย ดอยผาวอก และดอยอ่างขางอันเป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาแดนลาว เป็นเส้นกั้นอาณาเขต ทิศใต้ อำเภอสามเงา อำเภอแม่ระมาด และอำเภอท่าสองยาง (จังหวัดตาก) มีร่องน้ำแม่ตื่นและดอยผีปันน้ำ ดอยเรี่ยม ดอยหลวงเป็นเส้นกั้นอาณาเขต ทิศตะวันออก อำเภอแม่จัน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า (จังหวัดเชียงราย) อำเภอเมืองปาน อำเภอเมืองลำปาง (จังหวัดลำปาง) อำเภอบ้านธิ อำเภอเมืองลำพูน อำเภอป่าซาง อำเภอเวียงหนองล่อง อำเภอบ้านโฮ่ง และอำเภอลี้ (จังหวัดลำพูน) ส่วนที่ติดจังหวัดเชียงรายและลำปางมีร่องน้ำลึกของแม่น้ำกก สันปันน้ำดอยซาง ดอยหลุมข้าว ดอยแม่วัวน้อย ดอยวังผา และดอยแม่โตเป็นเส้นกั้นอาณาเขต ส่วนที่ติดจังหวัดลำพูนมีดอยขุนห้วยหละ ดอยช้างสูง และร่องน้ำแม่ปิงเป็นเส้นกั้นอาณาเขต ทิศตะวันตก อำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย (จังหวัดแม่ฮ่องสอน) มีดอยผีปันน้ำ ดอยกิ่วแดง ดอยแปรเมือง ดอยแม่ยะ ดอยอังเกตุ ดอยแม่สุรินทร์ ดอยขุนยวม ดอยหลวง และร่องแม่ริด แม่ออย และดอยผีปันน้ำดอยขุนแม่ตื่นเป็นเส้นกั้นอาณาเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอเชียงดาว อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม อำเภอสะเมิง อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอพร้าว อำเภอสันป่าตอง อำเภอสันกำแพง อำเภอสันทราย อำเภอหางดง อำเภอฮอด อำเภอดอยเต่า อำเภออมก๋อย อำเภอสารภี อำเภอเวียงแหง อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่วาง อำเภอแม่ออน อำเภอดอยหล่อ
Chiang Mai province is about 700 kilometres from Bangkok and is situated on the Mae Ping River basin and is 300 metres above sea level. Surrounded by high mountain ranges, it covers an area of approximately 20,107 square kilometres. The district is covered by many mountains, chiefly stretching in the south-north direction. The river Ping, one of the major tributaries of the Chao Phraya River, originates in the Chiang Dao mountains. The highest mountain of Thailand, the 2,565 meter high Doi Inthanon, is located in the district. Several national parks are in the district: Doi Inthanon, Doi Suthep-Pui, Mae Ping, Sri Lanna, Huay Nam Dang, Mae Phang, Chiang Dao.
The mountainous terrain is mainly jungle, parts of which are within national parks which are still fertile and verdant with plentiful flora and fauna. There are many sites and locations where tourists prefer to visit to study the lifestyle of the tribal people who live on high hills.The city of Chiang Mai was capital of the Lanna kingdom after its founding in 1296. During the same period of time as the establishment of the Sukhothai Kingdom. From then, Chiang Mai not only became the capital and cultural core of the Lanna Kingdom, it was also the centre of Buddhism in northern Thailand and King Meng Rai built innumerable temples.
In 1599 the kingdom lost its independence and became part of the Ayutthaya kingdom. This ending the dynasty founded by King Meng Rai which had lasted for 300 years. The occupiers Burma, had a powerful Burmese influence on the architecture which can still be seen today. It was only in the late 18th century that Burma was finally defeated with the leadership of King Taksin.
In 1932 the province Chiang Mai became the second level subdivision of Thailand when the administrative unit of Monthon Phayap, the remains of the Lanna kingdom, was dissolved.Chiang Mai province for years now has been the tourist hub of the north and one of Thailand’s most important tourist destinations. It is considered one of the most scenic provinces in the country due to its mountain ranges, valleys, flora and fauna. Unlike most of Thailand, the climate in the north and especially Chiang Mai is cool, fresh and misty.
Doi Suthep-Doi Pui National Park (อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย) The park consists of forests and mountain ranges. Major mountains include Doi Suthep, Doi Buak Ha, and Doi Pui. This is a main source of tributaries and streams in Chiang Mai. Sacred places, religious attractions and historical sites are located in the park complex.
Walking Street Chiang Mai municipality has organized, since 2006, the Chiang Mai Walking Street at the Three Kings Monument Courtyard. It has turned into a thriving Sunday market for locally made handicraft products, all of which are displayed on the street.
Chiang Mai Zoo (สวนสัตว์เชียงใหม่) is located next to Huai Kaeo Arboretum. It is a large zoo, which occupies the lower forested slopes of Doi Suthep Mountain. The zoo contains more than 200 types of Asian and African mammals and birds.
Doi Inthanon National Park (อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์): standing at over 2,500 meters, Doi Inthanon is Thailand's highest mountain and one of the coolest peaks. Besides the actual mountain itself, there are a variety of other attractive locations such as Mae Ya, Wachirathan and Siriphum waterfalls and Bori Chinda Cave.
Pang Chang Mae Sa: The elephant shows are a demonstration of the elephants’ abilities in log-hauling. After the end of the performance, visitors are able to have a go at riding an elephant.
Wat Phra Singh (วัดพระสิงห์วรวิหาร), houses the revered Phra Phuttha Sihing Buddha (พระพุทธสิหิงค์) image cast in Subduing Mara. The Buddha image is now enshrined in Viharn Lai Kham. The temple compound includes the lovely Viharn Lai Kham featuring exquisite woodcarvings and northern-style murals paintings, a magnificent scriptural repository with striking bas relief, and a circular stupa (in Lankan bell shape).
Mae Sa Waterfall (น้ำตกแม่สา) The famous 8-tiered waterfall in Amphoe Mae Rim occupies a natural setting among towering trees, covered with a lovely breeze all year round.
Night Bazaar: Every evening the center of the provincial city holds one of the provinces biggest markets, selling a huge variety of goods to tourists, both foreign and Thai. The market is 3 blocks long and is surrounded by restaurants, cafes and travel agents.