นครสวรรค์
แผนที่ภาคเหนือของประเทศไทย แยกจังหวัดภาคเหนือ เป็นภูมิภาคหนึ่งของไทย อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ มีเขตแดนทางตอนเหนือติดกับชายแดนพม่าและลาว ทางตะวันออกจรดชายแดนลาวและภาคอีสาน ทางตะวันตกจรดพม่า และทางใต้ติดกับภาคกลาง
เนื้อหา1 การแบ่งเขตการปกครอง 2 จากหลักฐานทางโบราณคดี 3 ภาคเหนือตอนบน 4 ภาคเหนือตอนล่าง 5 ความเชื่อและพิธีกรรม 6 เทือกเขาที่สำคัญของภาคเหนือ 7 อ้างอิง 8 แหล่งข้อมูลอื่น การแบ่งเขตการปกครองภูมิประเทศของภาคเหนือเต็มไปขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน โดยเฉพาะบริเวณตอนเหนือสุด เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และน่าน โดยมีจุดสูงสุดของภาค (และของประเทศ) อยู่ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ทางตอนเหนือของภาคนั้นจะมีภาษาไทยที่มีสำเนียงเป็นของตนเองเรียกว่า คำเมือง
จังหวัดในภาคเหนือถ้าจะแบ่งตามความคุ้นเคยของชาวไทยจะมีด้วยกัน 9 จังหวัด ดังนี้
เชียงราย เชียงใหม่ (นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่) น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง (เขลางค์นคร) ลำพูน (หริภุญชัย) อุตรดิตถ์
ดอยทางภาคเหนือแต่ในการแบ่งเขตตามราชบัณฑิตยสถาน จะประกอบไปด้วย 9 จังหวัด ได้แก่
เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ นอกจากการแบ่งตามราชบัณฑิตยสถานแล้ว ยังมีหน่วยงานที่จัดแบ่งภูมิภาคของประเทศไทยที่สำคัญอีกหน่วยงานหนึ่งคือ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดให้ภาคเหนือประกอบด้วย 17 จังหวัดได้แก่ [1]
เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี
จากหลักฐานทางโบราณคดีภาคเหนือตอนบนในอดีต ได้มีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น สาม อาณาจักร ดังนี้คือ
อาณาจักรโยนก อาณาจักรหริภุญไชย อาณาจักรล้านนา
ภาคเหนือตอนบนได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน
เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนามาก่อน เป็นถิ่นพูดคำเมือง(เติ้งอู้กำเมือง)
ภาคเหนือตอนล่างได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร เพชรบูรณ์ ตาก และ กำแพงเพชร
ภาคเหนือตอนล่างมีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง แต่ก็ยังมีอีกจังหวัดหนึ่งที่เป็นอดีตศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่างนั่นคือจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะมีหลายเชื้อชาติประกอบกันเป็นจังหวัดที่แปลกประหลาดมากที่สุดในสยามประเทศเพราะ จังหวัดนี้มีชนชาติที่ต่างกันถึง 3 ชนชาติ คือชนชาติไทยภาคเหนือ (ล้านนา) ชนชาติไทยภาคกลาง และ ชนชาติลาว ดังนั้นจังหวัดนี้จึงอธิบายแน่นอนไม่ได้ว่าภาษาที่พูดตกลงเป็นภาษาอะไร เพราะมีหลายภาษาในจังหวัดนี้ แต่ภาษาราชการของจังหวัดอุตรดิตถ์ก็ยังคงเป็น ภาษาภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่างมีภาษาพูดที่เป็นภาษาของคนภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นแต่ส่วนของคนในท้องถิ่นที่ไม่ใช่อำเภอเมือง หรือในอำเภอเมือง จะมีภาษาพูดเป็นของท้องถิ่น เช่น จังหวัดอุตรดิตถ์ ในอำเภอเมืองพูดภาษาภาคกลาง แต่พอขึ้นไปทางเหนือบริเวณตั้งแต่อำเภอลับแลเหนือขึ้นไป จะพูดภาษาทางถิ่นเหนือที่เรียกว่า คำเมือง แต่ภาษาของจัวหัดอุตรดิตถ์ทางตอนเหนือจะมีลักษณะไม่เหมือนภาษาคำเมืองทั่วไป เพราะสำเนียงจะออกไปทางประเทศลาวเสียส่วนใหญ่ เพราะคนแถวนี้ในสมัยก่อนอพยพมาจากเชียงตุง และเชียงแสน
อ้างอิง
http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1378
ราชบัณฑิตยสถาน
นครสวรรค์
นครสวรรค์เป็นจังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง ถือเป็น ประตูสู่ภาคเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 9,597 ตารางกิโลเมตร นับเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์อีกจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย มีพื้นที่ติดต่อกับหลายจังหวัด ได้แก่ ด้านเหนือ ติดต่อกับจังหวัดพิจิตรและกำแพงเพชร ทางตะวันออกติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี ด้านใต้ติดกับจังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท และอุทัยธานี ส่วนด้านตะวันตกติดกับจังหวัดตากนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่านครสวรรค์มีชื่อปรากฏมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัยเป็นราชธานี โดยเรียกว่า เมืองพระบาง เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคญในการทำศึกสงคราม ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี กระทั่งถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ภายหลังเรียกชื่อว่า เมืองชอนตะวัน และเปลี่ยนเป็น นครสวรรค์ ในที่สุด แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกกันว่า เมืองปากน้ำโพ ที่เรียกว่า "ปากน้ำโพ" ก็คือว่าเป็นบริเวณที่แม่น้ำปิง วัง ยม และน่านมาบรรจบกัน จึงเรียกว่า "ปากน้ำโผล่" และเพี้ยนมาเป็น "ปากน้ำโพ"สภาพภูมิประเทศของจังหวัดนครสวรรค์อยู่ในดินแดนของลุ่มน้ำ เป็นต้นกำเนิดของแม่เจ้าสายหลักของภาคกลาง นั่นคือ แม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็น การไหลบรรจบของแม่น้ำสี่สายจากภาคเหนือ ได้แก่ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เมืองสี่แคว นอกจากยังมีภูเขาขนาดย่อมกระจัดกระจายในอำเภอต่าง ๆอำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอโกรกพระ อำเภอชุมแสง อำเภอหนองบัว อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอเก้าเลี้ยว อำเภอตาคลี อำเภอท่าตะโก อำเภอไพศาลี อำเภอพยุหะคีรี อำเภอลาดยาว อำเภอตากฟ้า อำเภอแม่วงก์ อำเภอแม่เปิน อำเภอชุมตาบง
Nakhon Sawan
Nakhon Sawan is one of the provinces of Thailand. Neighboring Provinces are Kamphaeng Phet, Phichit, Phetchabun, Lop Buri, Sing Buri, Chai Nat, Uthai Thani and Tak.
The word Nakhon originates from the Sanskrit word Nagara meaning city, and the word Sawan from Sanskrit svarga meaning heaven. Hence the name of the province literally means Heaven City.Nakhon Sawan was a city since Dvaravati era. While part of the Sukhothai kingdom, it was called Mueang Phra Bang, the southern frontier city of Sukhothai. Later within the Ayutthaya kingdom it was an important trade center because of its location at the two major rivers from the north. It also was the common meeting point of Burmese troops before moving to attack Ayutthaya. In the reign of King Taksin the Great, Phra Bang became a Siamese military base to prevent further Burmese attacks.
When King Mongkut signed the Bowring Treaty with Britain the glorious time of Nakhon Sawan began, as it became the main rice and teak trading center. However the opening of the Northern railway in 1922, the economic crisis before 1932 revolution, and finally the opening of Dejativongse bridge and Phahonyothin highway in 1950 each decreased the importance of water transportation and thus made Nakhon Sawan less important.
When in 1895 King Chulalongkorn established the monthon as part of the thesaphiban administrative reform, Nakhon Sawan became capital city of Monthon Nakhon Sawan.
The 4th Infantry Regiment of the 3rd Area Army is based in Nakhon Sawan. It is in charge of the northwestern border with Burma, from Mae Hong Son in the north to Kanchanaburi in the south.
FestivalsChao Pho-Chao Mae Pak Nam Pho Procession Festival (งานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ) is a festival of the Thai Chinese who live in Nakhon Sawan. This festival has been held since ancient times. It takes place during Chinese New Year (around the beginning of February every year) to bring good fortune. It features various processions such as lion parade, dragon parade, angel procession, the goddess Guan Yin procession and others going along the main roads in the municipality. The festival is famous among Thais and foreigners.
Boat Races for His Majesty’s Trophy (ประเพณีการแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน) are held annually at the end of the Buddhist Lent on the Chao Phraya River in front of the Provincial Hall. There are also races at temples along the river such as Wat Ko Hong and Wat Takhian Luan. The races show the unity of the people, as well as the skill of paddlers and boat owners participating.